“แพ้ท้อง” อาการที่คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ต้องเจอ 🤰
คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจกังวลว่าอาการแพ้ท้องจะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์หรือเปล่า? วันนี้เรามีคำตอบมาบอกค่ะ
จริง ๆ แล้ว อาการแพ้ท้องเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก (สัปดาห์ที่ 6-12) และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกน้อยแต่อย่างใด แม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิชาการเชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์
🤔 แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ากำลังแพ้ท้อง?
- คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะในช่วงเช้า
- จมูกไวผิดปกติ เริ่มแพ้กลิ่นที่เคยชอบ
- พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป บางทีอาหารจานโปรดกลับกินไม่ลง หรืออยากกินของที่ไม่เคยชอบ
- อารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิดบ่อย
- เหนื่อยง่าย ง่วงนอนตลอด ปวดหัวบ่อย
💝 แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เรามีวิธีช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องมาฝาก:
🍽️ เรื่องการกิน:
- เตรียมขนมเบา ๆ ไว้ข้างเตียง พอตื่นนอนให้กินทันที ช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ดี
- แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่กินบ่อยขึ้น
- เลือกกินอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงของมัน ๆ ทอด ๆ หรือรสจัด
- ดื่มน้ำเยอะๆ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
- หลังกินอาหารควรนั่งพัก 15-30 นาที ไม่ควรนอนทันที
🌿 เรื่องการใช้ชีวิต:
- หลีกเลี่ยงกลิ่นหรือรสชาติของอาหารทำให้เกิดการแพ้
- พยายามอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท ไม่มีเสียงดังหรือแสงจ้า วูบวาบ
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเล่น หรือโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- บอกคนรอบข้างให้เข้าใจอาการของเรา จะได้ช่วยดูแลได้ถูก
⚠️ แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ ต้องรีบไปพบคุณหมอนะคะ:
- อาเจียนรุนแรงจนกินอะไรไม่ได้เลย
- น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
- ปัสสาวะน้อยลงหรือมีสีเข้มผิดปกติ
- เวียนหัว หน้ามืดจนใช้ชีวิตปกติไม่ได้
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
สุดท้ายนี้ อยากให้คุณแม่ทุกคนสบายใจว่า อาการแพ้ท้องเป็นเรื่องปกติและจะค่อยๆ ดีขึ้นเองค่ะ 🤗 แต่ถ้ากังวลอะไร แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่ดูแลอยู่นะคะ 💕