📋 ทำไมต้องตรวจครรภ์? และวิธีไหนแม่นยำที่สุด?
ประจำเดือนขาด อารมณ์แปรปรวน รู้สึกคลื่นไส้ตอนเช้า หรือเริ่มมีอาการเพลียง่ายผิดปกติ… หลายคนอาจเริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือเปล่า? แต่การสังเกตอาการอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะอาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้ การตรวจครรภ์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยคลายความสงสัย
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับวิธีตรวจครรภ์แบบต่างๆ กัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างมั่นใจ และได้ผลการตรวจที่แม่นยำที่สุด
🔍 วิธีตรวจการตั้งครรภ์ มี 3 วิธีหลักๆ ดังนี้
✔️ตรวจด้วยตัวเอง (สะดวกและง่ายที่สุด) การใช้ชุดตรวจครรภ์แบบแถบจุ่มหรือแบบปากกา ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป วิธีนี้จะตรวจจากปัสสาวะ โดยหาฮอร์โมน hCG ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากรกหลังมีการตั้งครรภ์ ความแม่นยำของวิธีนี้อยู่ที่ประมาณ 97%
▪️ ควรตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน เพราะปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงสุด
▪️ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปก่อนตรวจ เพราะจะทำให้ฮอร์โมนเจือจาง
▪️ ตรวจหลังประจำเดือนขาด 1-2 วัน และตรวจซ้ำหลังจาก 2-3 วันหากไม่มั่นใจในผลตรวจครั้งแรก
▪️ เลือกซื้อชุดตรวจที่มีคุณภาพ และให้ลองทดสอบด้วยชุดตรวจหลายยี่ห้อ
✔️ ตรวจเลือด (แม่นยำที่สุด) สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้เร็วกว่าวิธีอื่นๆ คือตั้งแต่ 7-12 วันหลังการปฏิสนธิ นอกจากจะบอกได้ว่าตั้งครรภ์หรือไม่แล้ว ยังสามารถบอกอายุครรภ์ได้อีกด้วย ความแม่นยำของการตรวจเลือดนั้นเกือบ 100% โดยใช้เวลารอผลเพียง 1-2 ชม.ในการตรวจเท่านั้น
▪️แนะนำสำหรับผู้ที่มีประวัติแท้งบุตรหรือมีภาวะมีบุตรยาก
▪️ช่วยประเมินความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้
▪️สามารถวัดระดับฮอร์โมนที่แม่นยำ ช่วยประเมินอายุครรภ์ได้
✔️อัลตร้าซาวด์ (มากกว่าแค่การยืนยันการตั้งครรภ์) การตรวจด้วยวิธีนี้จะเริ่มเห็นถุงการตั้งครรภ์ได้เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์ และจะเห็นหัวใจทารกเต้นได้เมื่ออายุครรภ์ 7-8 สัปดาห์ วิธีนี้นอกจากจะบอกอายุครรภ์ได้แล้ว ยังสามารถตรวจพบความผิดปกติต่างๆ ได้อีกด้วย
▪️ช่วยตรวจสอบตำแหน่งของถุงการตั้งครรภ์
▪️ประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์
▪️ตรวจหาภาวะผิดปกติต่างๆ ได้ตั้งแต่ระยะแรก
▪️ช่วยคำนวณอายุครรภ์และกำหนดคลอดได้แม่นยำ
💡 คำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่ สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ แนะนำให้เริ่มจากการตรวจด้วยชุดตรวจครรภ์ที่บ้านก่อน หากพบว่าผลเป็นบวก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันและเริ่มต้นการฝากครรภ์โดยเร็ว เพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่ระยะแรก