นมแม่ เป็นสุดยอดอาหารที่เหมาะสมที่สุดของทารก มีประโยชน์ครบครันและมีคุณสมบัติพิเศษทางด้านโภชนาการและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกน้อย
ด้านโภชนาการ
นมแม่มีสารอาหารครบถ้วนกระตุ้นการเติบโตของสมอง และร่างกายของลูกน้อย ซึ่งไม่มีนมชนิดใดทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังดูดซึมง่าย ย่อยง่าย ทำให้ลูกไม่ต้องทรมานกับอาการท้องผูก นมแม่ทำให้การเจริญเติบโตของลูกสมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย และสมอง มีเชาว์ปัญญาดี และสารอาหารในน้ำนมแม่นั้นจะปรับเปลี่ยนตามระยะการผลิตน้ำนมและการเติบโตของทารก
โดยระยะการผลิตนมของคุณแม่มี 3 ระยะ ได้แก่
1.ระยะโคลอสตรุ้ม (Colostrum) 0-5 วันหลังแรกคลอด
2.ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน (Transitional milk) 5-14 วันหลังคลอด
3.ระยะน้ำนมแม่ (Mature milk) 14 วันหลังคลอดเป็นต้นไป ประกอบด้วย น้ำนมส่วนหน้า (Fore milk) และน้ำนมส่วนหลัง (Hind milk)
โดยลักษณะของสีและความสำคัญของทั้ง 3 ระยะ แอดมินจะมาอธิบายอย่างละเอียดในบทความอื่นต่อไปนะคะ
ภูมิต้านทานเหล่านี้มาจากแม่ที่เคยเป็นโรคดังกล่าวมาก่อนและมีภูมิต้านทานโรคแล้ว ส่งผ่านภูมิต้านทานจากนมแม่ไปยังทารก ทำให้ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเหล่านี้กับลูกได้
ด้านภูมิคุ้มกัน
นมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกของลูกน้อยที่ได้รับภูมิคุ้มกันนั้นทันที ตั้งแต่การกลืนนมแม่ในมื้อแรก ภูมิต้านทานป้องกันโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น โรคหวัด ปอดอักเสบ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (RSV) โรคลำไส้อักเสบ เยื่อหุ้มสมอง เยื่อหุ้มหัวใจ โรคงูสวัด
ดังนั้นนมแม่จึงสำคัญในการช่วยให้ทารกสามารถปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องตนเองจากสภาวะแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ไม่ใช่เพียงลูกน้อยที่ได้ประโยชน์นะคะ ตัวคุณแม่เองก็ได้ประโยชน์จากการให้นมแม่กับลูกเช่นกันค่ะ ไว้บทความหน้าแอดมินมาแชร์เรื่องประโยชน์ของการผลิตน้ำนมที่มีต่อตัวคุณแม่กันนะคะ